8 อันดับ เทคโนโลยีในชีวิต ยุค 4.0
วิถีชีวิตประจำวันของมนุษย์ เทคโนโลยีเริ่มมีบทบาทต่อผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความก้าวหน้า
รวดเร็วและเที่ยงตรง ทำให้เทคโลยีที่มีหลากหลาย เริ่มที่จะก้าวเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิต
ประจำวันของมวลมนุษยชาติมากขึ้น
ผลการสำรวจจาก TBM (Tech Breakthroughs Megatrend) ซึ่งทำการสำรวจรูปแบบเทคโน
โลยีกว่า 150 แบบทั่วโลก จากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา เพื่อค้นหาเทคโนโลยีที่
จะเข้ามามีบทบาทในการพลิกโลกเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้นี้
อันดับ 1
AI = Artificial Intelligence ( ปัญญาประดิษฐ์ )
AI คือคอมพิวเตอร์ที่สามารถคิดและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ด้วยเหตุและผล จนสามารถตอบโต้การ
สนทนาได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้นยังสามารถเรียนรู้และจดจำ สิ่งที่ผ่านให้มาเป็นบทเรียนได้
อย่างลึกซึ้งอีกด้วย
การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ถูกแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ เพราะการนำไปใช้งานของแต่ละองค์กร
นั้นแตกต่างกัน การบริการที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นเพียงบางส่วนของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
เท่านั้น
ในอนาคต ความก้าวหน้าและผลสำเร็จของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จะช่วยให้ฐานข้อมูลขนาด
ใหญ่ของโลกอินเทอร์เน็ต ถูกนำมาใช้ประโยชน์มากกว่าในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังสามารถช่วย
เหลือมนุษย์ได้ทุกเรื่องจากการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งมนุษย์ไม่มีวันทำได้
อันดับ 2
AR = Augmented Reality ( โลกกึ่งเสมือนจริง )
AR คือเทคโนโลยีโลกกึ่งเสมือนจริง เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีกับการมองเห็น ในโลกของ
ความเป็นจริงมาเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการซ้อนเทคโนโลยีเข้ากับการมองของมนุษย์ปกติ ทำให้เกิด
มุมมองใหม่ เพื่อใช้เทคโนโลยีและจัดการระบบได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
โดยปัจจุบันแม้ว่าจะยังเป็นแค่การทำงานอย่างง่าย ๆ เช่นการออกกำลังกายในลู่วิ่ง เมื่อสวมแว่น
VR เข้าไป จะทำให้การวิ่งนั้นมองเห็นวิวทิวทัศน์ในสถานที่ที่เราต้องการได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หรือจะเป็นการสวมใส่ VR ในการจัดของเพื่อตรวจนับสต๊อกสินค้าไปในตัว เป็นต้น
อันดับ 3
Blockchain ( บล็อกเชน )
บล็อกเชนเป็นเครือข่ายการเก็บข้อมูลแบบหนึ่ง ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลเดียว
กันเราจึงรู้ว่า ใครมีสิทธิและเป็นเจ้าของข้อมูลเหล่านี้จริงๆ โดยข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ในแต่ละ
บล็อกที่เชื่อมโยงกันบนเครือข่ายเหมือนกับห่วงโซ่ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เรียกรูปแบบ
การเก็บและแชร์ข้อมูลแบบนี้ว่า Blockchain
บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีการเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันทั้งหมด โดยข้อมูลทุกบล็อกจะ
เป็นเหมือนสำเนาของตัวเอง เมื่อเกิดการแก้ไขจะทำให้ทุกบล็อกรับรู้การแก้ไขนั้น ๆ และมี
ประวัติเก็บไว้อย่างซับซ้อน จึงมีความปลอดภัยจากโครงสร้างที่เกิดขึ้น
ความสามารถของบล็อกเชน เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อถูกนำมาใช้งานในรูปของ Bitcoin หรือเงิน
เสมือนจริง ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ด้วยการบันทึกทุกกล่องเป็นสำเนาข้อมูลเหมือน
กันหมดทำให้บล็อกเชนมีความปลอดภัยมากกว่าการบันทึกด้วยมนุษย์หรือเครื่องมือบันทึกใดๆ
ที่มีอยู่เดิม
อันดับ 4
Drones ( โดรน )
โดรนเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการบิน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถของการบินหลาย
ระยะ ด้วยระบบอัตโนมัติ โดรนเข้ามาแทนที่ในการบินหลายระบบ ทั้งเล็กและใหญ่ จากเดิมที่
ใช้เครื่องบินใส่ปุ๋ยและยาพืชไร่ สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องโดรน ที่บรรทุกปุ๋ยและยาบินเข้าพื้น
ที่แบบอัตโนมัติตามการวางโปรแกรมการบิน เพื่อจัดการพื้นที่ได้อย่างไม่หลงลืม
ในปัจจุบันมีการใช้โดรนในหลายรูปแบบ ทางการทหาร การช่วยเหลือผู้ประสบภัยรวมทั้งการ
ขนส่งทำให้โดรนกลายเป็นเครื่องมือขนส่ง ที่ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางอากาศ
ระยะไกลได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขนส่งคนหรือสิ่งของก็ตาม
แนวคิดดังกล่าวยังไม่สามารถเกิดขึ้นจริงในเชิงพาณิชย์ แต่กระนั้นก็เริ่มมีการทดลองอย่างจริง
จังในหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอีคอมเมิร์ซที่กลายมาเป็นระบบค้าขายที่ได้รับความนิยมสูง
สุดในปัจจุบัน
อันดับ 5
IOT = Internet Of Things ( อินเทอร์เน็ตเพื่อทุกสิ่ง )
เทคโนโลยี IOT เป็นสิ่งที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุด เพราะสามารถเข้าไปได้แทบทุกอุตสาหกรรม
เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีของการสื่อสารบนอุปกรณ์เท่านั้น คาดหวังกันว่า IOT จะช่วยลดเวลา
การจัดการทั้งหมดของมนุษย์ รวมไปถึงการดูแลความเป็นอยู่ของมนุษย์ ให้มีความปลอดภัย
สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ IOT ยังเป็นอุปกรณ์ที่จะเก็บข้อมูล รายงานสิ่งที่จำเป็นให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึง
การตรวจสอบในระบบสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
อันดับ 6
Robots ( หุ่นยนต์ )
หุ่นยนต์จะเข้ามาทดแทนแรงงานในอนาคต เนื่องจากงานบางชนิด ต้องใช้แรงงานที่ต้องทำงาน
ซ้ำๆ แบบเดิมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ จึงทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงาน ในโรงงานอุตสาหกรรม
หุ่นยนต์แขนกลจะทำหน้าที่แทนหนุ่มสาวโรงงาน ทั้งการยกของจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งหรือทำ
งานซ้ำๆ แบบเดิมตามไลน์การผลิต จึงมักใช้หุ่นยนต์แขนกลแทน
นอกจากอุตสาหกรรมการผลิตแล้ว หุ่นยนต์ยังสามารถเข้าไปแทนที่การทำงาน ในงานที่มีความ
เสี่ยงสูงเช่น หุ่นยนต์ดับเพลิง หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดเป็นต้น ในอนาคต หุ่นยนต์จะถูกนำมาใช้เพื่อ
ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์มากขึ้น
อันดับที่ 7
VR = Virtual Reality ( โลกเสมือนจริง )
VR เป็นเทคโนโลยีที่อาจจะคล้ายเคียงกับ AR หากมองแบบผิวเผิน แต่จริง ๆ แล้ว มีความแตกต่าง
กันอย่างชัดเจนไม่ว่าจะวิธีการใช้หรือรูปแบบที่นำไปใช้ก็ตาม
VR นั้นจะตัดขาดเราออกจากสถาพแวดล้อมปัจจุบัน เพื่อเข้าไปสู่สภาพแวดล้อมที่จำลองขึ้นมาใหม่
ทั้งหมด แต่ AR จะพยายามรวบรวมผสมผสาน ระหว่างสภาพแวดล้อมจริงๆ ณ ขณะนั้นเข้ากับวัตถุ
ที่จำลองขึ้นมานั้นเอง ตัวอย่างเช่น การทำเครื่อง VR เพื่อฝึกบินเครื่องบินตามรุ่นต่าง ๆ หรือการฝึก
ผ่าตัดของแพทย์เพื่อความเชี่ยวชาญ
อันดับที่ 8
3D Printing ( ระบบพิมพ์ 3 มิติ )
เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ฟังดูอาจจะเข้าใจว่าคงเหมือนกับ "เครื่องพิมพ์" ที่วุ่นวายกับเรื่องหมึก
เรื่อง "ริบบอน" ในระบบการพิมพ์ที่เราคุ้นเคย แต่จริงแล้วเครื่องนี้กลับเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป
เนื่องจากฟีเจอร์การทำงาน เป็นเหมือนการแกะสลักแบบดิจิทัล ที่สั่งงานโดยคอมพิวเตอร์ค่อย ๆ
แกะเนื้อวัสดุออก ตามที่ต้องการไปทีละขั้นทีละตอนเหมือนการขึ้นรูปวัสดุ
เครื่องพิมพ์ 3 มิติ จึงเป็นที่หมายปองของนักออกแบบ เพราะเพียงเวลาไม่นาน แบบที่ร่างไว้ในคอม
พิวเตอร์ก็จะถูกพรินต์ออกมาเป็นโมเดล 3 มิติที่จับต้องได้ทุกประการ
ด้วยจุดเด่นของการทำงานที่ไม่จำกัดจำนวนและรวดเร็ว ในการพิมพ์ออกมา ทำให้เครื่องพิมพ์ชนิดนี้
ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่นในวงการแพทย์ที่มีการออกแบบอวัยวะเทียมเพื่อทดแทน
อวัยวะสำคัญที่ขาดหายไป ออกแบบด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติแล้วฉีดเซลล์เข้าไปเพื่อลดอาการต่อต้าน
ก็จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
รวดเร็วและเที่ยงตรง ทำให้เทคโลยีที่มีหลากหลาย เริ่มที่จะก้าวเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิต
ประจำวันของมวลมนุษยชาติมากขึ้น
ผลการสำรวจจาก TBM (Tech Breakthroughs Megatrend) ซึ่งทำการสำรวจรูปแบบเทคโน
โลยีกว่า 150 แบบทั่วโลก จากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา เพื่อค้นหาเทคโนโลยีที่
จะเข้ามามีบทบาทในการพลิกโลกเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้นี้
อันดับ 1
AI = Artificial Intelligence ( ปัญญาประดิษฐ์ )
AI คือคอมพิวเตอร์ที่สามารถคิดและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ด้วยเหตุและผล จนสามารถตอบโต้การ
สนทนาได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้นยังสามารถเรียนรู้และจดจำ สิ่งที่ผ่านให้มาเป็นบทเรียนได้
อย่างลึกซึ้งอีกด้วย
การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ถูกแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ เพราะการนำไปใช้งานของแต่ละองค์กร
นั้นแตกต่างกัน การบริการที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นเพียงบางส่วนของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
เท่านั้น
ในอนาคต ความก้าวหน้าและผลสำเร็จของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จะช่วยให้ฐานข้อมูลขนาด
ใหญ่ของโลกอินเทอร์เน็ต ถูกนำมาใช้ประโยชน์มากกว่าในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังสามารถช่วย
เหลือมนุษย์ได้ทุกเรื่องจากการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งมนุษย์ไม่มีวันทำได้
อันดับ 2
AR = Augmented Reality ( โลกกึ่งเสมือนจริง )
AR คือเทคโนโลยีโลกกึ่งเสมือนจริง เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีกับการมองเห็น ในโลกของ
ความเป็นจริงมาเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการซ้อนเทคโนโลยีเข้ากับการมองของมนุษย์ปกติ ทำให้เกิด
มุมมองใหม่ เพื่อใช้เทคโนโลยีและจัดการระบบได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
โดยปัจจุบันแม้ว่าจะยังเป็นแค่การทำงานอย่างง่าย ๆ เช่นการออกกำลังกายในลู่วิ่ง เมื่อสวมแว่น
VR เข้าไป จะทำให้การวิ่งนั้นมองเห็นวิวทิวทัศน์ในสถานที่ที่เราต้องการได้อย่างเป็นธรรมชาติ
หรือจะเป็นการสวมใส่ VR ในการจัดของเพื่อตรวจนับสต๊อกสินค้าไปในตัว เป็นต้น
อันดับ 3
Blockchain ( บล็อกเชน )
บล็อกเชนเป็นเครือข่ายการเก็บข้อมูลแบบหนึ่ง ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลเดียว
กันเราจึงรู้ว่า ใครมีสิทธิและเป็นเจ้าของข้อมูลเหล่านี้จริงๆ โดยข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ในแต่ละ
บล็อกที่เชื่อมโยงกันบนเครือข่ายเหมือนกับห่วงโซ่ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เรียกรูปแบบ
การเก็บและแชร์ข้อมูลแบบนี้ว่า Blockchain
บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีการเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันทั้งหมด โดยข้อมูลทุกบล็อกจะ
เป็นเหมือนสำเนาของตัวเอง เมื่อเกิดการแก้ไขจะทำให้ทุกบล็อกรับรู้การแก้ไขนั้น ๆ และมี
ประวัติเก็บไว้อย่างซับซ้อน จึงมีความปลอดภัยจากโครงสร้างที่เกิดขึ้น
ความสามารถของบล็อกเชน เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อถูกนำมาใช้งานในรูปของ Bitcoin หรือเงิน
เสมือนจริง ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ด้วยการบันทึกทุกกล่องเป็นสำเนาข้อมูลเหมือน
กันหมดทำให้บล็อกเชนมีความปลอดภัยมากกว่าการบันทึกด้วยมนุษย์หรือเครื่องมือบันทึกใดๆ
ที่มีอยู่เดิม
อันดับ 4
โดรนเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการบิน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถของการบินหลาย
ระยะ ด้วยระบบอัตโนมัติ โดรนเข้ามาแทนที่ในการบินหลายระบบ ทั้งเล็กและใหญ่ จากเดิมที่
ใช้เครื่องบินใส่ปุ๋ยและยาพืชไร่ สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องโดรน ที่บรรทุกปุ๋ยและยาบินเข้าพื้น
ที่แบบอัตโนมัติตามการวางโปรแกรมการบิน เพื่อจัดการพื้นที่ได้อย่างไม่หลงลืม
ในปัจจุบันมีการใช้โดรนในหลายรูปแบบ ทางการทหาร การช่วยเหลือผู้ประสบภัยรวมทั้งการ
ขนส่งทำให้โดรนกลายเป็นเครื่องมือขนส่ง ที่ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางอากาศ
ระยะไกลได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขนส่งคนหรือสิ่งของก็ตาม
แนวคิดดังกล่าวยังไม่สามารถเกิดขึ้นจริงในเชิงพาณิชย์ แต่กระนั้นก็เริ่มมีการทดลองอย่างจริง
จังในหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอีคอมเมิร์ซที่กลายมาเป็นระบบค้าขายที่ได้รับความนิยมสูง
สุดในปัจจุบัน
อันดับ 5
IOT = Internet Of Things ( อินเทอร์เน็ตเพื่อทุกสิ่ง )
เทคโนโลยี IOT เป็นสิ่งที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุด เพราะสามารถเข้าไปได้แทบทุกอุตสาหกรรม
เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีของการสื่อสารบนอุปกรณ์เท่านั้น คาดหวังกันว่า IOT จะช่วยลดเวลา
การจัดการทั้งหมดของมนุษย์ รวมไปถึงการดูแลความเป็นอยู่ของมนุษย์ ให้มีความปลอดภัย
สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ IOT ยังเป็นอุปกรณ์ที่จะเก็บข้อมูล รายงานสิ่งที่จำเป็นให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึง
การตรวจสอบในระบบสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
อันดับ 6
Robots ( หุ่นยนต์ )
หุ่นยนต์จะเข้ามาทดแทนแรงงานในอนาคต เนื่องจากงานบางชนิด ต้องใช้แรงงานที่ต้องทำงาน
ซ้ำๆ แบบเดิมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ จึงทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงาน ในโรงงานอุตสาหกรรม
หุ่นยนต์แขนกลจะทำหน้าที่แทนหนุ่มสาวโรงงาน ทั้งการยกของจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งหรือทำ
งานซ้ำๆ แบบเดิมตามไลน์การผลิต จึงมักใช้หุ่นยนต์แขนกลแทน
นอกจากอุตสาหกรรมการผลิตแล้ว หุ่นยนต์ยังสามารถเข้าไปแทนที่การทำงาน ในงานที่มีความ
เสี่ยงสูงเช่น หุ่นยนต์ดับเพลิง หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดเป็นต้น ในอนาคต หุ่นยนต์จะถูกนำมาใช้เพื่อ
ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์มากขึ้น
อันดับที่ 7
VR = Virtual Reality ( โลกเสมือนจริง )
VR เป็นเทคโนโลยีที่อาจจะคล้ายเคียงกับ AR หากมองแบบผิวเผิน แต่จริง ๆ แล้ว มีความแตกต่าง
กันอย่างชัดเจนไม่ว่าจะวิธีการใช้หรือรูปแบบที่นำไปใช้ก็ตาม
VR นั้นจะตัดขาดเราออกจากสถาพแวดล้อมปัจจุบัน เพื่อเข้าไปสู่สภาพแวดล้อมที่จำลองขึ้นมาใหม่
ทั้งหมด แต่ AR จะพยายามรวบรวมผสมผสาน ระหว่างสภาพแวดล้อมจริงๆ ณ ขณะนั้นเข้ากับวัตถุ
ที่จำลองขึ้นมานั้นเอง ตัวอย่างเช่น การทำเครื่อง VR เพื่อฝึกบินเครื่องบินตามรุ่นต่าง ๆ หรือการฝึก
ผ่าตัดของแพทย์เพื่อความเชี่ยวชาญ
อันดับที่ 8
3D Printing ( ระบบพิมพ์ 3 มิติ )
เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ฟังดูอาจจะเข้าใจว่าคงเหมือนกับ "เครื่องพิมพ์" ที่วุ่นวายกับเรื่องหมึก
เรื่อง "ริบบอน" ในระบบการพิมพ์ที่เราคุ้นเคย แต่จริงแล้วเครื่องนี้กลับเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป
เนื่องจากฟีเจอร์การทำงาน เป็นเหมือนการแกะสลักแบบดิจิทัล ที่สั่งงานโดยคอมพิวเตอร์ค่อย ๆ
แกะเนื้อวัสดุออก ตามที่ต้องการไปทีละขั้นทีละตอนเหมือนการขึ้นรูปวัสดุ
เครื่องพิมพ์ 3 มิติ จึงเป็นที่หมายปองของนักออกแบบ เพราะเพียงเวลาไม่นาน แบบที่ร่างไว้ในคอม
พิวเตอร์ก็จะถูกพรินต์ออกมาเป็นโมเดล 3 มิติที่จับต้องได้ทุกประการ
ด้วยจุดเด่นของการทำงานที่ไม่จำกัดจำนวนและรวดเร็ว ในการพิมพ์ออกมา ทำให้เครื่องพิมพ์ชนิดนี้
ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่นในวงการแพทย์ที่มีการออกแบบอวัยวะเทียมเพื่อทดแทน
อวัยวะสำคัญที่ขาดหายไป ออกแบบด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติแล้วฉีดเซลล์เข้าไปเพื่อลดอาการต่อต้าน
ก็จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น